Exposure Archives - Page 4 of 27 - Learn Thai from a White Guy

LTfaWG Talks: Pee Mak

This is another talk which should be pretty easy. There isn’t much vocab here and she repeats herself a lot. I’d appreciate some feedback on this one. Also, if there are particular topics you’d like to hear about, let me know.

Read: Gdoc Version

สวัสดีค่ะ วันนี้นะคะ ไนซ์อยากจะมาแชร์ประสบการณ์เรื่องหนังที่ไนซ์ได้ไปดูมาเมื่อวานกับครอบครัวนะคะ อ่า..ไนซ์ไปดูเรื่องพี่มาก ตอนประมาณ 3 ทุ่มที่โรบินสันเชียงใหม่นะคะ ก็..หนังก็จบประมาณเที่ยงคืน ถามว่าสนุกมั้ย หรือตลกมั้ย เอ่อ…ถ้าเป็นความเห็นส่วนตัวไนซ์ ไนซ์คิดว่า มันยังไม่ตลกเท่าที่ควรอ่ะค่ะ เพราะว่า…คือมันก็ตลก แต่ว่ามันไม่ตลกเท่าที่เราคิดไว้ เท่าที่แบบที่ teaser มันออกมาให้เราเห็น แล้วก็จาก feedback หลายๆคนที่พูดถึง เพราะว่าก่อนจะไปดูก็ expect ไว้มาก ว่ามันจะต้อง มันจะต้องสนุกมาก ตลกมาก เพราะว่ามันทะลุแบบ 400 ล้านภายในเวลาไม่กี่เดือน ไม่ถึงเดือนด้วยซ้ำอย่างเนี๊ย ซึ่งมันแบบเป็นหนังที่มาแรงที่สุดในปีนี้เลยหรือในช่วงปีที่แล้ว ก็ว่าได้ แต่คือพอไปดูแล้วมันไม่ตลก มันแบบ เอ่อ..คือ..มุกมันก็ไม่ฮาเท่าไหร่ แล้วจริงๆถ้าถามว่า มันตลกอะไร ก็แค่ตลกที่หน้าคนเล่นเฉยๆ มันก็ไม่ได้มีอะไรแบบว่าพิเศษมาก แล้วก็ เอ่อ…ถ้าถามว่าจะไปดูอีกมั้ย ก็คงไม่ดูแล้วอ่ะนะค่ะ แต่ว่าตอนนี้มีหนังอีกเรื่องนึงที่อยากจะดูก็คือเรื่อง คู่กรรม พระเอกเหนี่ยก็เป็น พระเอกก็คือ ณเดช ก็คือเป็นผู้ชายที่แบบว่า popular ที่สุดในประเทศไทย ณ ขณะนี้อะไรอย่างเงี๊ย แต่ว่านางเอกนี้คือเป็น เป็นแบบ no name นิดนึง เค้าเป็นเด็ก จริงๆนางเอกเค้ายังเป็นเด็กอยู่ ยังอายุประมาณอยู่สัก ม.4 ม.5 นะคะ และก็เรียนอยู่เชียงใหม่ด้วย เป็นเด็กเชียงใหม่นะคะ แล้วก็อยู่โรงเรียนวารี โรงเรียน อ่า..ที่ถือว่ามีแต่ อ่า..พ่อแม่ผู้ปกครองที่มีตังค์นะคะ ส่งลูกไปเรียน ก็คือเอาเป็นว่าหนังเรื่องเนี๊ยก็น่าดูเหมือนกัน แต่ว่า comment, feedback ที่ได้พูด ที่เค้าพูดถึงเรื่องคู่กรรมนี่คือหมายความว่า ทุกคนไปดูเพราะว่าพระเอก แล้วทุกคนก็ไม่ชอบนางเอก แล้วยังไงไนซ์จะลองไปดูและเดี๋ยวไนซ์จะมาเล่าให้ฟังนะคะ ว่าหนังเรื่องคู่กรรมเหนี่ย มันดีหรือไม่ดียังไง ค่ะ วันนี้เท่านี้นะคะ สวัสดีค่ะ

LTfaWG Talks: I Lost my Iphone

Missing Iphone

 

Transcript:  (more reader-friendly gdoc version)

หวัดดีค่ะ วันนี้อยากจะมาแชร์ประสบการณ์ ที่ตัวเองได้ทำโทรศัพท์ ไอโฟนหายในห้องน้ำนะคะ คือเรื่องมันมีอยู่ว่าแนนได้นำโทรศัพท์ไอโฟนติดตัวเข้าไปในห้องน้ำด้วย แล้วก็ตั้งเอาไว้นะค่ะ พอเสร็จแล้วก็ด้วยความเลินเล่อ ทะเล่อทะล่า ของตัวเอง ก็ลืมมือถือเครื่องนั้น แล้วก็เดินกลับบ้าน ก็มารู้ตัวอีกทีก็คือถึงบ้านแล้ว แล้วก็หนึ่งชั่วโมงกว่า กว่า ให้หลังแล้ว ก็ดูว่า เอ๊ะ ! โทรศัพท์หายไปไหน ก็นึกขึ้นได้ว่า ครั้งสุดท้ายที่เห็นก็คือตั้งเอาไว้ในห้องน้ำ อย่างแรกที่เรยนะคะ ก็โทรเข้าเครื่องตัวเองก่อน ก็สายไปเสียแล้วค่ะ เครื่องก็ถูกปิดไปเรียบร้อยแล้ว อย่างที่สองนะค่ะ ก็คือการเปิดโปรแกรมไฟน์มายด์ไอโฟน ขึ้นมา เพื่อที่จะ เอ่อ หาตำแหน่งของเครื่องนะคะ ทางไอคราว แต่ก็ห่าแอนตาทานไปเลย ก็คิดว่าคนที่หยิบไปได้ก็เป็นคนที่ค่อนข้างมีความรู้เรื่องของโทรศัพท์พอสมควรนะคะ อย่างที่สามนะคะ ที่ทำก็คือ ไปแจ้งความกับสถานีตำรวจค่ะ ให้เค้าออกเอกสารตราครุฑมาให้ แล้วก็เอกสารบันทึกประจำวัน เพื่อที่จะนำไปส่งให้กับค่ายโทรศัพท์มือถือทั้งสามค่าย คือถ้าสมมุติว่ามีคนนำเครื่องของเรานะคะ ที่มีเลขอีมี่ของเราไปใช้ หรือว่าไปจดทะเบียนเนี่ย เราก็จะสามารถรู้ได้ทันทีว่าคนที่ใช้เนี่ย เค้า เอ่อ บ้านเลขที่อะไร ก็ทางค่ายโทรศัพท์ก็จะประสานงานให้กับทาง เอ่อ สถานีตำรวจนะคะ ทางสถานีตำรวจก็จะ เอ่อ โทรไปหา เอ่อ บุคคลนั้น แล้วก็ให้เค้านำมาส่งคืนนะคะ แต่ตอนนี้ก็ยังอยู่ที่ขั้นตอนการส่งค่ะ ก็ถ้าสมมุติว่ามีติดตามได้คืน หรือได้ข่าวอะไรก็จะมาอัพเดทให้เพื่อน เพื่อน ฟังนะคะ ยังไงก็ให้กำลังใจด้วยนะค่ะ

Diary: Thai Vocational School

This is a short Thai reading exercise about the writer’s experience studying at a Thai vocational college.

Here’s the reader friendly version: gdoc. Copy the document so you can study it however you’d like.

9 โมงเช้าของวันนี้ฉันมีเรียนอูคูเลเล่ ที่โรงเรียนสารพัดช่าง ซึ่งที่มีจะเปิดคอร์สเรียนให้แก่บุคคลทั่วไปในราคาที่ถูกมาก ซึ่งมีหลากหลายวิชาให้เลือกเรียน เช่น เรียนทำอาหารไทย เรียนแต่งหน้าทำผม เรียนตัดเย็บเสื้อผ้า เรียนภาษาจีน เรียนร้องเพลง เรียนเต้นลีลาศ เรียนบัญชี และอื่นๆ อีกมากมาย ประมาณ 60 วิชา ที่เปิดสอน

วันนี้เป็นวันที่สามของการเรียน อาจารย์ให้เลือกเล่นเพลงที่อยากเล่น ฉันเลือกเล่นเพลง When you say nothing at all ฉันพยายามเล่นให้ได้ จนรู้สึกเจ็บปลายนิ้วมือมาก แต่ก็ยังเล่นไม่ได้ทั้งหมดเพลง

ฉันเลิกเรียนตอนเที่ยงตรง ซึ่งอากาศร้อนมาก ฉันได้ทานข้าวกลางวันที่โรงอาหาร ของโรงเรียนสารพัดช่าง ร่วมกับเพื่อนๆ ที่เรียนอูคูเลเล่ด้วยกัน หลังจากนั้นฉันก็ขับรถไปที่ร้านกาแฟวาวี ที่นิมานเหมินทร์ เพื่อไปส่งของให้พี่สาวของฉัน ให้แก่ลูกค้าที่นั้น

ต่อจากนั้นฉันก็ไปที่กาดหลวง เพื่อไปซื้อผลไม้ ฉันได้ซื้อ มะม่วงสุก ส้มเขียวหวาน องุ่น และทุเรียน หลังจากนั้นก็ขับรถกลับบ้าน ระหว่างทางฉันได้แวะที่ 7-11 เพื่อชำระบิล ค่าไฟฟ้า และน้ำประปา แล้วก็ขับรถกลับบ้าน

 

สารพัดช่าง  is a government subsidized school that teaches real skills to people really cheap.  Many of the course are 200-300 hrs long and cost just a few baht per hour.  Pretty awesome. สารพัด means “lots” or “various” and ช่าง is the word used for skilled labourers like electricians, plumbers and mechanics.   So the name ends up meaning something like “whole lotta ช่างs”  I dig it.

 

Diary: Trip to Doi Suthep

A beginner at Thai language who knows a few hundred words should be able to make it through the first 2 paragraphs of this without too much effort.

The last 2 has some fortunetelling Thai vocabulary that may be more difficult, but other than those few words, this one is pretty easy.

Here’s the reader-friendly version: Gdoc

เช้านี้อากาศสดใสมาก หลังจากฝนที่ตกหนักจากเมื่อคืน ฉันกับพี่สาวเราตื่นนอนกันแต่เช้า เพราะต้องไปรับลุงกับป้าที่มาจากกรุงเทพ ที่สนามบินเชียงใหม่ พอเราไปถึงที่สนามบินได้สักประมาณ 15 นาที ลุงกับป้าก็เดินมาพอดี

หลังจากนั้นพวกเราได้ไปทานข้าวเช้าแถวๆ หลัง มช ซึ่งเราได้สั่งโจ๊กหมู และข้าวต้มทะเล มาทานกัน ต่อจากนั้นเราขับรถขึ้นไปยังดอยสุเทพ เพื่อไปกราบสักการะพระธาตุดอยสุเทพ พวกเราได้เดินขึ้นบันได ซึ่งสูงมาก ฉันกับพี่สาว เรารู้สึกเหนื่อยและต้องนั่งพักเป็นระยะๆ ไป ส่วนลุงกับป้าเดินขึ้นบันไดอย่างไม่บ่นเลย แข็งแรงมาก

พอมาถึง จุดบนสุดของพระธาตุดอยสุเทพ เราก็ได้มีการถ่ายรูป หลังจากนั้นก็ไปเสี่ยงเซียมซี ซึ่งฉันได้ใบทำนายที่ดีมาก ฉันก็เลยเก็บไว้กับตัวเอง

ต่อจากนั้นพวกเราได้ไปเที่ยวที่ดอยปุยต่อ ซึ่งที่นี่จะเป็นหมู่บ้านของชาวเขา ซึ่งจะมีสินค้าวางขายระหว่างทางเดินไปสู่สวนดอกไม้ ซึ่งสามารถเช่าชุดชาวเขาถ่ายรูปได้ ซึ่งจะมีหลายหลายสีสันให้เลือกเช่า หรือจะซื้อก็ได้  เราได้เดินมาอีกประมาณ 500 เมตร ก็มาถึงน้ำตกของที่นี่ ซึ้งระหว่างทางเดินจะมีดอกไม้หลายหลายชนิดมากมาย ฉันและพี่สาวเราได้ถ่ายรูปเก็บไว้เยอะมาก บ่าย 2 โมง อากาศเริ่มร้อน พวกเราจึงได้ตัดสินกลับบ้าน

 

ใบทำนาย – piece of paper that has your fortune on it

  • ทำนาย – to predict

ชาวเขา – hill tribe people

  • ชาว – people

  • (ภู)เขา – mountain

     

LTfaWG Talks: Furbies

This is a medium length Thai reading exercise about Furbies which were very popular when this was originally written.  Audio is included and click the google doc to see the vocabulary.

[2013 Entry]I’ve picked up some more part-time helpers to work on a new series which I’m going to call “LTfaWG Talks” unless somebody has a better idea.  Anyways, I whip and berate the speakers in the hopes that I can get them to talk about a particular topic for a few minutes at a time.  If the talk works out, I’ll include the transcript as well. Today’s speaker tells us why she doesn’t like Furby or his crew.  Please send along topic requests and I’ll see if any of my minions can pull it off.

This first talk is about 6 and a half minutes so expect to need to listen to it a few times to get the gist if there is a lot of new stuff in here for you.

Audio: The reason why i hate Furby

Reader: Gdoc

วันนี้นะคะก็อยากจะมาพูดถึงเหตุผลที่ไม่ชอบตุ๊กตาเฟอร์บี้นะคะ ที่ตอนนี้กำลังเป็นที่นิยมกันนะคะในหมู่ดาราแล้วก็วัยรุ่นนะคะ และก็มีการถ่ายรูปกัน (แล้วก็) กับเฟอร์บี้นะคะ แล้วก็โชว์ทางโซเชียล เน็ตเวิร์คนะคะ ไม่ว่าจะเป็นเฟสบุ๊คหรืออินสตาแกรมนะคะ ก็ถือว่าช่วงนี้ก็สามารถเห็นเฟอร์บี้ได้ใน(จาก)หลายๆแห่งเลยนะคะ อาจจะไม่อยากดูแต่ก็ต้องดูนะคะ ก็อยากจะมาพูดให้ฟังว่าทำไม เหตุผลอะไรที่ดิฉันจะไม่ซื้อเฟอร์บี้มาเป็นของดิฉันเด็ดขาดนะคะ

ข้อแรกนะคะที่สำคัญที่สุดก็คือตัวเฟอร์บี้เป็นสัตว์ที่อยู่เหมือนเกมลินเกินไปค่ะ ไม่รู้ว่าเพื่อนๆรู้จักเกมลินหรือเปล่าคะ ซึ่งในหนังเรื่องเกมลินเนี่ย (เมื่อโดน) เอ่อ สัตว์ตัวนี้เมื่อโดนน้ำหรือว่ากินอาหารหลังเที่ยงคืนเนี่ยมันก็จะกลายเป็นสัตว์ประหลาดนะคะ ที่ดุร้ายนะคะ ก็ทำให้ตอนนั้นที่ดิฉันเป็นเด็ก ๆ ดูหนังเรื่องนี้ก็ค่อนข้างที่จะฝังใจ ค่อนข้างกลัวนะคะ แต่มีคนบอกว่าตัวเฟอร์บี้นี่อยู่เหมือนนกฮูกกับแฮมสเตอร์ผสมกันนะคะ (ก็) ก็ไม่เห็นว่ามันจะเหมือนนกฮูกตรงไหนนะคะหรือว่าเหมือนแฮมสเตอร์ตรงไหนนะคะ ออกจะหน้าตาน่าเกลียดประหลาดๆนะคะแล้วก็สีแปร๋นนะคะ สีนี่ยิ่งไม่ชอบใหญ่เลยนะคะ สีม่วงแปร๋น หรือว่าสีเขียว สีน้ำเงินนะคะ โอเคค่ะข้อที่สองแล้วกันนะคะ

ข้อที่สอง ราคามันแพงเกินไปนะคะสำหรับตุ๊กตาตัวนึง ถึงแม้ว่ามันจะมีคอมพิวเตอร์หรือไมโครชิพฝังอยู่ก็ตามนะคะ แต่การซื้อของเล่นของเล่นนึงที่ราคาสามพันหรือหกพันเนี่ย แล้วก็ค่อนข้างที่คิดว่ามันน่าจะเป็นแค่ตุ๊กตาตัวนึงอ่ะ ราคาตั้งสามพัน ตอนนี้หกพันเจ็ดพันแล้ว คิดว่ามันค่อนข้างที่จะแพงอ่ะคะ แล้วก็สมัยตอนที่อยู่ม.ต้นนะคะ ช่วงนั้นเนี่ยคนก็ฮิตเล่นสัตว์เลี้ยงอิเล็คโทรนิคเหมือนกัน ที่ชื่อว่าทามาก็อตจิ ช่วงนั้นเนี่ยนะคะเพื่อนของดิฉันเกือบทั้งห้องนะคะมีทามาก็อตจิทุกคน แต่ดิฉันไม่มีนะคะ ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงจะต้องซื้อตัวละหลายร้อยบาทเพื่อที่จะมาใส่ในกระเป๋าแล้วต้องมานั่งกดทั้งวัน ๆ เพื่อที่จะ เหมือนกับการให้อาหารมันนะคะ ต้องเลี้ยงมันตั้งแต่ยังเป็นไข่ ฟักออกมาเป็นลูกไก่ ลูกทามาก็อตจิอะไรก็ตามนะคะ ซึ่งสมัยนั้นเนี่ยคนในห้องเรียนก็ไม่ค่อยได้เรียนหรอกค่ะ นั่งกดทามาก็อตจิทั้งวันนะคะ ก็คิดว่ามันไร้สาระมาก ไม่รู้ว่ามันสนุกตรงไหนนะคะ เอาเงินเนี่ยไปเลี้ยงข้าว(พ่อ)คุณพ่อคุณแม่ดีกว่านะคะ โอเคค่ะ

ข้อที่สาม ไม่ชอบเฟอร์บี้ที่มันพูดมากนะคะ ดูจากในรีวิวของเพื่อนนะคะ พูดไม่หยุด พูดทั้งวัน ไม่มีสวิตช์ปิด มีคนบอกว่า (ถ้ามัน) อยากให้มันนอน ก็เอาผ้าปิดหัวมันสิ มันจะได้เงียบ อะไรยังงี้ มันจะได้นอนนะคะ แต่มีอีกคนนึงมาบอกว่า อ๊าเฟอร์บี้นอนหลับแล้วกรน น่ารักจังเลย อ้าว ตกลงว่ายังไงเนี่ยคะ ตกลงว่า นอนก็กรน ตื่นก็บ่น ยังงี้หรอคะ แล้วเมื่อไหร่ที่มันจะเงียบละคะ อันนี้ก็ทำให้คิดว่ามันเป็นสัตว์เลี้ยงที่น่ารำคาญนะคะ เป็นของเล่นที่น่ารำคาญมาก มาก ๆ

ข้อที่สี่นะคะ เค้าบอกว่ามีแอพพลิเคชั่นสอนภาษาเฟอร์บี้ เพื่อที่จะให้สื่อสารเข้าใจกับเฟอร์บี้ได้นะคะ อันนี้ค่อนข้างที่จะปัญญาอ่อนนะคะ ไม่รู้ว่าคิดกันไปได้ยังไงนะคะ เรียนภาษาเฟอร์บี้ เอาไปทำอะไรคะภาษาเฟอร์บี้ คุณจะไปเที่ยวเฟอร์บี้แลนด์เหรอคะหรือว่าคุณจะย้ายไปอยู่ประเทศเฟอร์บี้ อันนี้นะคะถ้าอย่างนั้นก็ไม่ต้องกลับมาที่โลกมนุษย์แล้วนะคะก็อยู่ไปที่ประเทศเฟอร์บี้ คิดว่าน่าจะเอาเวลาที่เรียนภาษาเฟอร์บี้เนี่ยนะคะ มาเรียนภาษาอังกฤษดีกว่านะคะ เพื่อที่จะเอาไปใช้งานได้ด้วยนะคะในชีวิตจริง ในโลกของความเป็นจริงนะคะ ก็ค่อนข้างจะออกแนวเพ้อเจ้อค่ะ คนที่คิดภาษาเฟอร์บี้ขึ้นมาเนี่ยนะคะ

ข้อสุดท้ายคือข้อห้าที่ไม่ชอบเฟอร์บี้ เพราะการที่จะเล่นเฟอร์บี้ได้จะต้องมีแอพพลิเคชั่นสำหรับเล่นเฟอร์บี้ เพราะฉะนั้นต้องไปโหลดแอพมาอีกลงไปในเครื่องมือถือของคุณหรือไอแพดหรือไอพอดหรืออะไรก็ตามนะคะ ไม่ใช่ว่าซื้อตุ๊กตามาปุ๊บก็จะเล่นได้เลย ยังต้องไปซื้อมือถือหรือว่าอะไรก็ตามที่ (เป็น) สามารถใช้แอพ ดาวน์โหลดแอพมาเล่นกับตุ๊กตาเฟอร์บี้ได้อีกนะคะ

อันนี้คิดว่ามันค่อนข้างที่จะเป็นการแพงเกินไปแล้วก็เป็นการที่ยากลำบากเกินไปสำหรับการเล่นตุ๊กตาตัวนี้นะคะ ในความเห็นส่วนตัวเนี่ยที่คิดว่าตุ๊กตาเฟอร์บี้เนี่ย (มี) เป็นที่นิยมในตอนนี้ก็คือ(มันเหมือนกับ)มัน มันมีการตอบโต้กับเจ้าของได้ แล้วก็แสดงออกว่าดีใจได้ เสียใจได้ ก็เหมือนกับสัตว์เลี้ยงตัวนึงนะคะ เพราะว่าคนในสมัยปัจจุบันเนี่ยก็ไม่ค่อยที่จะมีเวลาที่จะมีสัตว์เลี้ยงจริง ๆ สักหนึ่งตัว อาจจะทำงานหนักหรือว่าอาจจะไม่อยากมีความรับผิดชอบหรือว่าอะไรก็ตามนะคะ ก็ทำให้เฟอร์บี้ก็มาตอบโจทย์คนกลุ่มนี้นะคะ ที่อยากจะมีสัตว์เลี้ยงที่ตอบโต้เราแต่ว่าไม่จำเป็นต้องดูแลมันตลอดไปจนหลาย ๆ ปี อะไรยังงี้อ่ะค่ะ (ก็) ในอนาคตนี้ก็คิิดว่า หลังจากนี้นะคะก็ต้องมีบริษัทที่ทำตุ๊กตาเฟอร์บี้(คล้าย ๆ) อาจจะเป็นทำพวกตุ๊กตาสัตว์เลี้ยงอิเล็คโทรนิคอย่างนี้ขึ้นมาอีกนะคะ แต่ว่าดิฉันก็คงไม่คิดที่จะอุดหนุนอีกอย่างแน่นอนค่ะ ขอบคุณค่ะ