learn thai from a white guy Archives - Page 6 of 29 - Learn Thai from a White Guy

LTfaWG Talks: Toilet Troubles

Read-friendly: gdoc

สวัสดีค่ะ เดี๋ยววันนี้แนนจะเล่าเรื่องตลกให้ฟังหนึ่งเรื่องนะคะ มีอยู่ครั้งหนึ่งค่ะที่แนนได้ไปเที่ยวชมที่อุทยานแห่งชาติแห่งหนึ่งที่ค่อนข้างไกลจากเมืองหลวงนะคะ แล้ว(พอ)ตอนที่จะเข้าห้องน้ำเนี่ย ห้องน้ำก็จะมีเป็นห้องน้ำรวมนะคะ ก็มีเพียงห้องเล็ก ๆ สองห้องเท่านั้นเอง แล้วในห้องน้ำเนี่ยก็จะเป็นห้องน้ำแบบนั่งยองๆหรือว่าเป็นแบบส้วมซึมนะคะ ในห้องน้ำเนี่ยก็จะมีโอ่งใบยักษ์นะคะที่ใส่น้ำเอาไว้เต็มตุ่มเลย ก็คาดว่าน่าจะเอาไว้ใช้(ใน)อาบน้ำสำหรับคนบริเวณนั้นนะคะ แล้วก็จะมีอ่างเล็ก ๆ อีกหนึ่งอ่างเอาไว้ชะล้างหลังจากเสร็จกิจนะคะ ก็ แนนก็เข้าไปทำธุระตามปกติค่ะ แล้วก็หลังจากออกมาจากห้องน้ำเสร็จแล้วก็เจอฝรั่งท่านหนึ่งที่เค้าต่อหลังแนนอยู่อ่ะคะ แล้วสักพักเค้าก็หันกลับมาเรียกแนนว่า โอเคแปลเป็นไทยนะคะว่า “เนี่ยคุณ คุณช่วยอะไรหน่อยได้ไหม” แล้วแนนก็ตอบว่า “เอ่อ มีอะไรคะ” เค้าบอกว่า “เนี่ย ฉันไม่รู้ว่าฉันจะต้องฉี่ลงไปตรงไหน ฉันต้องฉี่ลงไปในโอ่งใหญ่ ๆ ใบนั้นเลยไม๊” แล้วแนนก็หัวเราะค่ะ แล้วก็บอกว่า “ถ้าสมมุติว่าคุณฉี่ลงไปในโอ่งใบนั้นเนี่ย คนที่เข้าหลังคุณเนี่ยอาจจะมีปัญหาได้นะคะ” ก็บอกว่าให้คุณเนี่ยฉี่ลงไปในส้วมซึมก็คือรูเล็กๆนั่น ถ้าสมมุติว่ายืนฉี่ไม่ได้ก็นั่งฉี่นะคะถ้ามันไกลเกินไป เค้าก็บอกว่าโอเค ๆ แล้วเค้าก็จะพยายามนะคะ จบค่ะยังไงก็ขอบอกให้เพื่อน ๆ ทุกคนได้เข้าใจนะคะว่า โอ่งที่ใส่น้ำเนี่ยไม่ใช่โอ่งเก็บฉี่นะคะ เป็นโอ่งเก็บน้ำสะอาดค่ะ ขอบคุณค่ะ

LTfaWG Talks: Furbies

This is a medium length Thai reading exercise about Furbies which were very popular when this was originally written.  Audio is included and click the google doc to see the vocabulary.

[2013 Entry]I’ve picked up some more part-time helpers to work on a new series which I’m going to call “LTfaWG Talks” unless somebody has a better idea.  Anyways, I whip and berate the speakers in the hopes that I can get them to talk about a particular topic for a few minutes at a time.  If the talk works out, I’ll include the transcript as well. Today’s speaker tells us why she doesn’t like Furby or his crew.  Please send along topic requests and I’ll see if any of my minions can pull it off.

This first talk is about 6 and a half minutes so expect to need to listen to it a few times to get the gist if there is a lot of new stuff in here for you.

Audio: The reason why i hate Furby

Reader: Gdoc

วันนี้นะคะก็อยากจะมาพูดถึงเหตุผลที่ไม่ชอบตุ๊กตาเฟอร์บี้นะคะ ที่ตอนนี้กำลังเป็นที่นิยมกันนะคะในหมู่ดาราแล้วก็วัยรุ่นนะคะ และก็มีการถ่ายรูปกัน (แล้วก็) กับเฟอร์บี้นะคะ แล้วก็โชว์ทางโซเชียล เน็ตเวิร์คนะคะ ไม่ว่าจะเป็นเฟสบุ๊คหรืออินสตาแกรมนะคะ ก็ถือว่าช่วงนี้ก็สามารถเห็นเฟอร์บี้ได้ใน(จาก)หลายๆแห่งเลยนะคะ อาจจะไม่อยากดูแต่ก็ต้องดูนะคะ ก็อยากจะมาพูดให้ฟังว่าทำไม เหตุผลอะไรที่ดิฉันจะไม่ซื้อเฟอร์บี้มาเป็นของดิฉันเด็ดขาดนะคะ

ข้อแรกนะคะที่สำคัญที่สุดก็คือตัวเฟอร์บี้เป็นสัตว์ที่อยู่เหมือนเกมลินเกินไปค่ะ ไม่รู้ว่าเพื่อนๆรู้จักเกมลินหรือเปล่าคะ ซึ่งในหนังเรื่องเกมลินเนี่ย (เมื่อโดน) เอ่อ สัตว์ตัวนี้เมื่อโดนน้ำหรือว่ากินอาหารหลังเที่ยงคืนเนี่ยมันก็จะกลายเป็นสัตว์ประหลาดนะคะ ที่ดุร้ายนะคะ ก็ทำให้ตอนนั้นที่ดิฉันเป็นเด็ก ๆ ดูหนังเรื่องนี้ก็ค่อนข้างที่จะฝังใจ ค่อนข้างกลัวนะคะ แต่มีคนบอกว่าตัวเฟอร์บี้นี่อยู่เหมือนนกฮูกกับแฮมสเตอร์ผสมกันนะคะ (ก็) ก็ไม่เห็นว่ามันจะเหมือนนกฮูกตรงไหนนะคะหรือว่าเหมือนแฮมสเตอร์ตรงไหนนะคะ ออกจะหน้าตาน่าเกลียดประหลาดๆนะคะแล้วก็สีแปร๋นนะคะ สีนี่ยิ่งไม่ชอบใหญ่เลยนะคะ สีม่วงแปร๋น หรือว่าสีเขียว สีน้ำเงินนะคะ โอเคค่ะข้อที่สองแล้วกันนะคะ

ข้อที่สอง ราคามันแพงเกินไปนะคะสำหรับตุ๊กตาตัวนึง ถึงแม้ว่ามันจะมีคอมพิวเตอร์หรือไมโครชิพฝังอยู่ก็ตามนะคะ แต่การซื้อของเล่นของเล่นนึงที่ราคาสามพันหรือหกพันเนี่ย แล้วก็ค่อนข้างที่คิดว่ามันน่าจะเป็นแค่ตุ๊กตาตัวนึงอ่ะ ราคาตั้งสามพัน ตอนนี้หกพันเจ็ดพันแล้ว คิดว่ามันค่อนข้างที่จะแพงอ่ะคะ แล้วก็สมัยตอนที่อยู่ม.ต้นนะคะ ช่วงนั้นเนี่ยคนก็ฮิตเล่นสัตว์เลี้ยงอิเล็คโทรนิคเหมือนกัน ที่ชื่อว่าทามาก็อตจิ ช่วงนั้นเนี่ยนะคะเพื่อนของดิฉันเกือบทั้งห้องนะคะมีทามาก็อตจิทุกคน แต่ดิฉันไม่มีนะคะ ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงจะต้องซื้อตัวละหลายร้อยบาทเพื่อที่จะมาใส่ในกระเป๋าแล้วต้องมานั่งกดทั้งวัน ๆ เพื่อที่จะ เหมือนกับการให้อาหารมันนะคะ ต้องเลี้ยงมันตั้งแต่ยังเป็นไข่ ฟักออกมาเป็นลูกไก่ ลูกทามาก็อตจิอะไรก็ตามนะคะ ซึ่งสมัยนั้นเนี่ยคนในห้องเรียนก็ไม่ค่อยได้เรียนหรอกค่ะ นั่งกดทามาก็อตจิทั้งวันนะคะ ก็คิดว่ามันไร้สาระมาก ไม่รู้ว่ามันสนุกตรงไหนนะคะ เอาเงินเนี่ยไปเลี้ยงข้าว(พ่อ)คุณพ่อคุณแม่ดีกว่านะคะ โอเคค่ะ

ข้อที่สาม ไม่ชอบเฟอร์บี้ที่มันพูดมากนะคะ ดูจากในรีวิวของเพื่อนนะคะ พูดไม่หยุด พูดทั้งวัน ไม่มีสวิตช์ปิด มีคนบอกว่า (ถ้ามัน) อยากให้มันนอน ก็เอาผ้าปิดหัวมันสิ มันจะได้เงียบ อะไรยังงี้ มันจะได้นอนนะคะ แต่มีอีกคนนึงมาบอกว่า อ๊าเฟอร์บี้นอนหลับแล้วกรน น่ารักจังเลย อ้าว ตกลงว่ายังไงเนี่ยคะ ตกลงว่า นอนก็กรน ตื่นก็บ่น ยังงี้หรอคะ แล้วเมื่อไหร่ที่มันจะเงียบละคะ อันนี้ก็ทำให้คิดว่ามันเป็นสัตว์เลี้ยงที่น่ารำคาญนะคะ เป็นของเล่นที่น่ารำคาญมาก มาก ๆ

ข้อที่สี่นะคะ เค้าบอกว่ามีแอพพลิเคชั่นสอนภาษาเฟอร์บี้ เพื่อที่จะให้สื่อสารเข้าใจกับเฟอร์บี้ได้นะคะ อันนี้ค่อนข้างที่จะปัญญาอ่อนนะคะ ไม่รู้ว่าคิดกันไปได้ยังไงนะคะ เรียนภาษาเฟอร์บี้ เอาไปทำอะไรคะภาษาเฟอร์บี้ คุณจะไปเที่ยวเฟอร์บี้แลนด์เหรอคะหรือว่าคุณจะย้ายไปอยู่ประเทศเฟอร์บี้ อันนี้นะคะถ้าอย่างนั้นก็ไม่ต้องกลับมาที่โลกมนุษย์แล้วนะคะก็อยู่ไปที่ประเทศเฟอร์บี้ คิดว่าน่าจะเอาเวลาที่เรียนภาษาเฟอร์บี้เนี่ยนะคะ มาเรียนภาษาอังกฤษดีกว่านะคะ เพื่อที่จะเอาไปใช้งานได้ด้วยนะคะในชีวิตจริง ในโลกของความเป็นจริงนะคะ ก็ค่อนข้างจะออกแนวเพ้อเจ้อค่ะ คนที่คิดภาษาเฟอร์บี้ขึ้นมาเนี่ยนะคะ

ข้อสุดท้ายคือข้อห้าที่ไม่ชอบเฟอร์บี้ เพราะการที่จะเล่นเฟอร์บี้ได้จะต้องมีแอพพลิเคชั่นสำหรับเล่นเฟอร์บี้ เพราะฉะนั้นต้องไปโหลดแอพมาอีกลงไปในเครื่องมือถือของคุณหรือไอแพดหรือไอพอดหรืออะไรก็ตามนะคะ ไม่ใช่ว่าซื้อตุ๊กตามาปุ๊บก็จะเล่นได้เลย ยังต้องไปซื้อมือถือหรือว่าอะไรก็ตามที่ (เป็น) สามารถใช้แอพ ดาวน์โหลดแอพมาเล่นกับตุ๊กตาเฟอร์บี้ได้อีกนะคะ

อันนี้คิดว่ามันค่อนข้างที่จะเป็นการแพงเกินไปแล้วก็เป็นการที่ยากลำบากเกินไปสำหรับการเล่นตุ๊กตาตัวนี้นะคะ ในความเห็นส่วนตัวเนี่ยที่คิดว่าตุ๊กตาเฟอร์บี้เนี่ย (มี) เป็นที่นิยมในตอนนี้ก็คือ(มันเหมือนกับ)มัน มันมีการตอบโต้กับเจ้าของได้ แล้วก็แสดงออกว่าดีใจได้ เสียใจได้ ก็เหมือนกับสัตว์เลี้ยงตัวนึงนะคะ เพราะว่าคนในสมัยปัจจุบันเนี่ยก็ไม่ค่อยที่จะมีเวลาที่จะมีสัตว์เลี้ยงจริง ๆ สักหนึ่งตัว อาจจะทำงานหนักหรือว่าอาจจะไม่อยากมีความรับผิดชอบหรือว่าอะไรก็ตามนะคะ ก็ทำให้เฟอร์บี้ก็มาตอบโจทย์คนกลุ่มนี้นะคะ ที่อยากจะมีสัตว์เลี้ยงที่ตอบโต้เราแต่ว่าไม่จำเป็นต้องดูแลมันตลอดไปจนหลาย ๆ ปี อะไรยังงี้อ่ะค่ะ (ก็) ในอนาคตนี้ก็คิิดว่า หลังจากนี้นะคะก็ต้องมีบริษัทที่ทำตุ๊กตาเฟอร์บี้(คล้าย ๆ) อาจจะเป็นทำพวกตุ๊กตาสัตว์เลี้ยงอิเล็คโทรนิคอย่างนี้ขึ้นมาอีกนะคะ แต่ว่าดิฉันก็คงไม่คิดที่จะอุดหนุนอีกอย่างแน่นอนค่ะ ขอบคุณค่ะ

Diary: Rafting in Mae Wan

This is a short reading exercise written by a native Thai speaker.  Here’s a vocab that you can look at as you try to go through the text.

Useful Grammar:
คนละ 100 บาท – 100 baht per person
ไม่สามารถ VERB ได้ – I can’t/am unable to do VERB
*Remember that ได้ before a verb just makes it past tense.  It needs to come after the verb to mean “can/cant.”

ล่องแพที่แม่วาน

 

เช้าวันนี้ฉันมีนัดเจอเพื่อนๆ ที่นิมานเหมินทร์ ที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่ง ซึ่งเรามีนัดไปล่องแพที่แม่วาน ฉันรู้สึกตื่นเต้นมาก เพราะเป็นครั้งแรกในชีวิตของฉันเลยก็ว่าได้ ที่จะได้ไปล่องแพ พอเพื่อนๆ มาครบทุกคน พวกเราได้ตัดสินใจเช่ารถแดง เพื่อไปที่แม่วาน เพราะระยะทางค่อนข้างไกล และจำนวนเพื่อนไปเที่ยวด้วยกันในวันนี้มีทั้งหมด 10 คน

พวกเราได้ใช้เวลาในการเดินทางสักพัก ก็มาถึงที่แม่วาน  ซึ่งช่วงนี้เป็นหน้าฝน ทำให้ปริมาณของน้ำมีค่อนข้างมาก พวกเราได้เดินตรงไปร้านแห่งหนึ่ง เพื่อสอบถามราคาเช่าแพ ว่าเท่าไร ซึ่งราคาก็ประมาณคนละ 100 บาท พวกเราได้เช่าแพ 3 ลำ ต่อจากนั้นพนักงานของร้านได้ขับรถนำพวกเราไปยังจุดเริ่มต้น หรือจุดปล่อยตัว ซึ่งไกลจากบริเวณร้านที่เช่าแพ ประมาณ 1-2 กิโลเมตร

พวกเราได้สวมใส่เสื้อชูชีพที่แจกให้ แต่บางคนก็ไม่ใส่ เพราะว่าสามารถว่ายน้ำได้ สำหรับฉันต้องใส่ เพราะว่ายน้ำไม่ได้ หลังออกจากจุดปล่อยตัว ฉันรู้สึกตื่นเต้น และชอบมาก เพราะสามารถเห็นต้นไม้ ที่ขึ้นอยู่สองข้างทางแม่น้ำ อย่างสวยงาม ระหว่างการล่องแพก็มีเพื่อนบางคนตกน้ำบ้าง เพราะบางช่วงของแม่น้ำกระแสของน้ำค่อนข้างแรง
ใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมงกว่าๆ ก็มาถึงยังบริเวณข้างร้านเช่าแพ ซึ่งอยู่ติดกลับบริเวณแม่น้ำ ต่อจากนั้นพวกเราก็ไปอาบน้ำเปลี่ยนชุด เพื่อไปทานข้าว ซึ่งทุกคนหิวข้าวมาก
สำหรับการเดินทางไปเที่ยวแม่วานในครั้งนี้ ฉันรู้สึกสนุก และชอบมาก ถ้ามีโอกาส ฉันจะกลับไปเที่ยวอีกครั้ง

Diary: Feb 1st, 2013

 

If you’ve been reading this series of entries, you should be getting a lot better at this stuff.  I’m not going to give you the vocab for a few of the words that have appeared numerous times in previous entries.  Pay attention to the usage of พอ here.  When it’s at the beginning of the sentence it does not mean “enough.”  It means “when/after/as soon as.”

Reader: Gdoc

1 กุมภาพันธ์ 2556

หลังจากที่เมื่อคืน ที่ได้เลี้ยงฉลองวันเกิดตัวเอง ฉันได้ตื่นนอนตอน 10 โมง วันนี้เป็นวันหยุด ไม่มีเรียน ฉันได้โทรศัพท์ไปหาเพื่อนคนหนึ่ง ชื่อ ไมเคิล ซึ่งเขาเป็นคนอเมริกา พึ่งมาเที่ยวเมืองไทย ฉันได้ชวนไมเคิลไปเที่ยวที่ฟาร์มงูแม่สา อยู่ที่อำเภอแม่ริม ซึ่งห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ประมาณ 20 กิโลเมตร

เราได้นัดเจอกันตอน 12:30 น.หลังจากนั้นก็ขับรถมุ่งหน้าไปยังฟาร์มงู เราได้ซื้อบัตรเข้าชม คนละ 200 บาท ซึ่งภายในบริเวณฟาร์มงู ก็มีบริเวณให้เดินเล่น และมีสัตว์อื่นๆ นอกเหนือจากงูอีกมากมาย เช่น กระต่าย นกยูง นกอินทรี ลิง พังพอน และสัตว์อื่นๆ อีกมากมาย

พอเราเดินดูสัตว์บริเวณรอบๆ ได้สักพัก ก็มีเสียงเจ้าหน้าที่ตะโกนบอกว่า จะมีการแสดงเริ่มขึ้นแล้ว ซึ่งการแสดงนั้นก็จะโชว์ความสามารถระหว่างคนกับงู ระหว่างชมการแสดงฉันรู้สึกตื่นเต้นมาก เพราะฉันนั่งแถวหน้าสุดของการชมการแสดง

พอการแสดงจบก็มีเสียงปรบมือจากนักท่องเที่ยว หลังจากนั้นเราก็รู้สึกหิวข้าว จึงได้พากันไปทานข้าวที่ฟาร์มกล้วยไม้ ซึ่งไม่ไกลจากบริเวณฟาร์มงู เราได้ซื้อบัตรเข้าชมคนละ 100 บาท หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ก็ติดเข็มกลัดดอกกล้วยไม้ให้

ที่นี่มีดอกกล้วยไม้หลากหลายสายพันธุ์มาก ระหว่างทางเดินเข้าไปยังจุดขายอาหาร ก็จะมีจุดขายของที่ระลึกสำหรับนักท่องเที่ยว และมีบ่อปลาขนาดใหญ่ ปลาที่นี่ตัวใหญ่มาก

พอเข้ามาถึงจุดขายอาหาร ฉันได้สั่งข้าวพัดกระเพราหมู และน้ำพริกอ่อง ส่วนเพื่อนฉันได้สั่ง ต้มยำปลาทับทิม หลังจานทานข้าวเสร็จ เราได้เดินชมดูกล้วยไม้ สวยงามมาก

4 โมงเย็น เราก็ได้เดินทางกลับมายังตัวเมืองเชียงใหม่ และได้แยกย้ายกันกับบ้าน

 

 

Diary: My Birthday – January 31st, 2013

Birthday fun.  Here’s the gdoc with the vocab.  Check back in a few days for the audio.


ฉันตื่นนอนวันนี้ค่อนข้างสาย เพราะไม่มีเรียนในช่วงเช้า หลังจากนั้นฉันก็ไปอาบน้ำแปรงฟัน ต่อจากนั้นก็ขับรถไม่ตลาดหนองหอย เพื่อไปซื้อกับข้าว
เที่ยงตรงฉันก็เริ่มแต่งตัวไปมหาวิทยาลัย เพราะมีเรียนตอนช่วงบ่าย และตอน 4 โมงเย็นของวันนี้ฉันมีสอบวิชาการตลาด ซึ่งใช้เวลาในการสอบ 1 ชั่วโมง

วันนี้เป็นวันคล้ายวันเกิดของฉัน ปีนี้ฉันมีอายุครบ 21 ปี ซึ่งเย็นของวันนี้ จะมีงานเลี้ยงวันเกิดของฉัน ย่านนิมมานเหมินทร์ ฉันได้นัดเจอเพื่อนๆ ไว้ที่เวลา 1 ทุ่ม พอถึงเวลานัดหมาย ทุกคนก็เริ่มทยอยมา

อาหารของร้านนี้จะเป็นอาหารเกาหลี และมีอาหารไทยด้วย หลังจากที่เพื่อนๆ ของฉันได้มากันครบแล้ว เราก็ได้เริ่มสั่งอาหาร ซึ่งวันนี้ฉันได้สั่งเป็น สเต็กหมูเกาหลี ช่วงระหว่างที่พวกเรากำลังนั่งรออาหาร  เราก็มีการถ่ายรูป และพูดคุยกันถึงเรื่องราวต่างๆ

หลังจากทานข้าวเสร็จ  พวกเราได้ตัดสินใจไปเที่ยวที่ร้านวินดี้กันต่อ อยู่แถวสะพานนวรัฐ เราใช้เวลาขับรถประมาณ 10 นาที ก็มาถึงที่ร้าน ซึ่งภายในร้านเต็มไปด้วยผู้คนมากมาย เราได้โต๊ะนั่งที่ชั้นสองของร้าน เพราะข้างล่างไม่มีโต๊ะว่างเลย ฉันชอบดนตรีของร้านที่นี่มาก ส่วนใหญ่ก็จะเล่นเพลงไทยสากล จังหวะสนุกๆ ที่นี่จะมีทั้งคนไทย และชาวต่างชาติ

ฉันได้ใช้เวลาอยู่ที่ร้านนี่ถึงเวลาประมาณ ตี 1 กว่าๆ ก็ได้ตัดสินใจกลับบ้าน เพราะรู้สึกง่วงนอน และหิวข้าวด้วย ระหว่างทางกลับบ้าน ฉันได้แวะที่ 7-11 เพื่อซื้อมาม่า และไส้กรอก พอมาถึงบ้าน ฉันก็รีบทานอาหารที่ซื้อมา ต่อจากนั้นก็อาบน้ำ แปรงฟันและเข้านอนทันที

Useful Phrases

  • ตื่นสาย – to wake up late
  • หลังจากนั้น – after that; next (behind+from+that)
  • ต่อจากนั้น – after that; next (continued+from+that)
  • หลังจากเพื่อนๆ ได้มาครบแล้ว – after everyone arrived
  • ไปเที่ยว ____ ต่อ – we went out to ___ after/next
  • ใช้เวลา – to take/use up time
  • แวะ เซเว่น – to stop at 7-11 (*most of the time you are going to 7-11 you are แวะ-ing)