Thai video Archives - Learn Thai from a White Guy

The Middle Class Story

The Middle Class Story

I came up with the middle class story is a quick hook to help total beginners quickly learn to recognize the 7 important Thai middle class consonants.  Although I had been teaching Thai for a few years at this point, it was the first time that I taught a large group and also the first time that I had to adapt my system for people who didn’t know any Thai at all.  It was definitely a catalyst for ramping up the effectiveness of my methodology.  If I could teach a bunch of American exchange students to read Thai, I could teach anybody.

ก็อักษรกลาง อักษรกลางภาษาไทยจะมีทั้งหมด 9 ตัว ก็จะมี  จ ด ต ฎ ฏ บ ป อ ซึ่งการจะจำแบบนี้ มันจะเป็นเรื่องที่ยาก Brett ก็เลยแนะนำวิธีการจำเป็นเรื่องเป็นราวให้ง่ายๆ ดังต่อไปนี้ ก็คือ มีเด็กอยู่ 1 คน เค้าชอบเลี้ยงสัตว์ซึ่งสัตว์ที่เค้าเลี้ยงจะมีอยู่ 3 ชนิดก็คือ มีลา มีเต่า แล้วก็มีไก่ ซึ่งทั้ง 3 ชนิดเนี่ย เด็กคนนี้ก็เลยต้องเลี้ยงให้มันสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ ก็เลยเอาไปใส่ไว้ในอ่าง ซึ่งเป็นอ่างน้ำที่ใหญ่ๆ แล้วก็จะต้องเลี้ยงอาหารให้กับมันเพราะว่าไม่งั้นมันก็จะไม่มีชีวิตรอด ซึ่งอาหารที่เค้าจะให้ก็คือ ใไม้ แล้วถ้าเกิดว่าเราเลี้ยงมันแล้วเราไม่ ไม่ปิดมันเงี่ย มันก็จะทำให้มันสามารถหนีออกไปได้ใช่ไหม หลบหนีออกไปได้ ฉะนั้นเราต้องหาอะไรสักสิ่งหนึ่งมาปิด ซึ่งฝามันก็หายไปแล้ว ก็เลยใช้านที่มีอยู่ที่บ้านมาปิด ก็จะทำให้มันสามารถที่จะดำรงชีวิตอยู่ในบ้านเรา ที่เราเลี้ยงได้ก็ จบ ก็จะมีครบหมดเลยทั้ง 9 ตัวลองไปหาดูในเรื่องราวเมื่อกี้ (อืม…)

หมายเหตุ….ตัว ฎ ฏ จะไม่มีเพราะมันออกเสียงเหมือน ด ต ตามลำดับอยู่แล้วเลยไม่มีในเรื่อง

 

Sentence Breakdown

ก็อักษรกลาง – So, these middle class consonants…

อักษรกลางภาษาไทยจะมีทั้งหมด 9 ตัว Thai has 9 middle class consonants.

ก็จะมี – They are..ก จ ด ต ฎ ฏ บ ป อ

ซึ่งการจะจำแบบนี้ – and so remembering them like this

มันจะเป็นเรื่องที่ยาก – can be difficult

Brett ก็เลยแนะนำวิธีการจำเป็นเรื่องเป็นราว – So Brett came up with a story

ให้ง่ายๆ – to make it easier.

ดังต่อไปนี้ – As follows…

ก็คือ มีเด็กอยู่ 1 คน – So there is this kid…

เค้าชอบเลี้ยงสัตว์ – and he likes keeping pets.

ซึ่งสัตว์ที่เค้าเลี้ยงจะมีอยู่ 3 ชนิด and he has 3 different pets (kinds).

ก็คือ มีลา He’s got a fish.

มีเต่า a turtle

แล้วก็มีไก่ and a chicken

ซึ่งทั้ง 3 ชนิดเนี่ย and so all 3 of these animals

เด็กคนนี้ – so this kid

ก็เลยต้องเลี้ยงให้มันสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ – takes care of all of these animals

ก็เลยเอาไปใส่ไว้ในอ่าง and keeps them in a basin (that shower bucket thing)

ซึ่งเป็นอ่างน้ำที่ใหญ่ๆ a big bucket/basin

แล้วก็จะต้องเลี้ยงอาหารให้กับมัน – and of course he needs to feed them

เพราะว่าไม่งั้นมันก็จะไม่มีชีวิตรอด because if he didn’t how would they survive?

ซึ่งอาหารที่เค้าจะให้ก็คือ and he feeds them

ไม้ leaves

แล้วถ้าเกิดว่าเราเลี้ยงมันแล้วเราไม่ so if we have these animals

ไม่ปิดมันเงี่ย and we don’t close/cover (up the basin)

มันก็จะทำให้มันสามารถหนีออกไปได้ใช่ไหม they’d be able to get out (of the basin where they are kept) right?

หลบหนีออกไปได้  they’d be able to escape

ฉะนั้นเราต้องหาอะไรสักสิ่งหนึ่งมาปิด – so we need to have something to cover the basin with

ซึ่งฝามันก็หายไปแล้ว – but we lost the lid

ก็เลยใช้าน – so we use a plate

ที่มีอยู่ที่บ้านมาปิด from the house to close it up

ก็จะทำให้มันสามารถที่จะดำรงชีวิตอยู่ในบ้านเรา which allows them to stay in the house

ที่เราเลี้ยงได้ก็ จบ so we can take care of them.  That’s it.

ก็จะมีครบหมดเลยทั้ง 9 ตัว Oh, and there are actually 9 letters in all.

ลองไปหาดูในเรื่องราวเมื่อกี้ (อืม…) But if you check the story I just told…

หมายเหตุ….ตัว ฎ ฏ the reason the othe other 2 letters ฎ ฏ

จะไม่มี are left out

เพราะมันออกเสียงเหมือน ด ต  because they sound the same as ด and ต

Nickname – Transcript + Breakdown

[youtube=http://www.youtube.com/watch?v=ODP3FC4YDgI]

ฉายา ก็คือเป็นลักษณะของคำ ที่เหมือนเป็นชื่ออีกชื่อหนึ่งที่ใช้เรียกคน อย่างเช่น สมมติว่า บู๋นะเป็นคนตลก หัวเราะง่าย อย่างปกติเดินเข้าคณะ เดินเข้าไปในห้องแลปปุ๊บ!ก็หัวเราะโดยที่ไม่มีสาเหตุ เสร็จแล้ว ก็เป็นอย่างงี้ทุกวัน ทุกวัน จนพี่ที่ห้องแลปเค้าก็เลยบอกว่า เออ!เนี่ยบู๋นะต้องกินกัญชาอะไรมาแน่เลย ทำไมมันหัวเราะทุกวันเลย แล้วพอมาวันนี้ พอบู๋จะเดินออกจากห้องแลป บู๋ก็บอกว่า “ไปแล้วนะค่ะพี่ๆ บ๊ายบาย ” อย่างเงี่ย พี่คนหนึ่งก็พูดขึ้นมา “จะกลับแล้วเหรอบู๋เชิญยิ้ม”อย่างเงี่ย คือเหมือนเป็นฉายาหนึ่งที่ตั้งแบบลักษณะของคน ที่เด่นๆของคนคนนี้ว่าเค้ามีลักษณะแบบไหน แล้วก็ให้ชื่อคนนั้นไป อันนี้คือคำว่าฉายา ของบู๋ก็มีฉายาว่าบู๋เชิญยิ้ม ซึ่งตอนแรกมีมาตั้งแต่สมัยเรียนป.ตรีแล้ว มีเพื่อนเคยเรียก แต่ไม่มีใครเรียกมานานแล้ว เพราะจบไปแล้วไง อืม…แล้วพอมาเรียนป.โท ไม่คิดว่าจะมีคนเรียก ตกใจเลยนะ หันไป ทำไมเค้าถึงเรียกอย่างเงี่ย แล้วเค้าก็บอกว่า ก็บู๋หัวเราะได้ทุกวัน จบ

ฉายา nickname

ก็คือ well, it’s..

เป็นลักษณะของคำ it’s a ลักษณะ of a word

ที่เหมือนเป็น thats the same as

ชื่ออีกชื่อหนึ่ง another name

ที่ใช้เรียกคน that’s used to call someone

อย่างเช่น For example…

สมมติว่า let’s assume that..

บู๋นะเป็นคนตลก I’m kinda funny

หัวเราะง่าย and I laugh easily

อย่างปกติ as usual

เดินเข้าคณะ I’m going into my faculty

เดินเข้าไป I walk into ..

ในห้องแลป the lab and

ปุ๊บ! ก็หัวเราะ bam (suddenly), I start laughing

โดยที่ไม่มีสาเหตุ without really having a reason…

ก็เป็นอย่างงี้ทุกวัน and so it goes like this every day

ทุกวัน every day

จน until

พี่ที่ห้องแลป a พี่ from my lab..

เค้าก็เลยบอกว่า He goes and says….

เออ!เนี่ยบู๋นะต้องกินกัญชาอะไรมาแน่เลย Jeez Boo, you must be smoking something..

ทำไมมันหัวเราะทุกวันเลย why are you always laughing?

แล้วพอมาวันนี้ and then this one day comes…

พอบู๋จะเดินออกจากห้องแลป and as soon as I’m walking out of the lab…

บู๋ก็บอกว่า I say…

“ไปแล้วนะค่ะพี่ๆ บ๊ายบาย ”  I’m heading out.  Cya.

อย่างเงี่ย like this

พี่คนหนึ่งก็พูดขึ้นมา and my พี่ yells out…

“จะกลับแล้วเหรอบู๋เชิญยิ้ม” Leaving already บู๋เชิญยิ้ม ? (<—ฉายา)

อย่างเงี่ย like that

คือเหมือนเป็นฉายาหนึ่ง  its like a nickname

ที่ตั้งแบบลักษณะของคน that is based on the characteristics (personality and/or physical)

ที่เด่นๆของคน that stand out

คนนี้ว่า and as for me (this person..)

เค้ามีลักษณะแบบไหน what am I like?

แล้วก็ให้ชื่อคนนั้นไป well, I was given that name

อันนี้คือคำว่าฉายา this is ฉายา

ของบู๋ก็มีฉายาว่าบู๋เชิญยิ้ม and my ฉายา is บู๋เชิญยิ้ม

ซึ่งตอนแรกมีมาตั้งแต่สมัยเรียนป.ตรีแล้ว which started up while I was in college..

มีเพื่อนเคยเรียก some friends used to call me that

แต่ไม่มีใครเรียกมานานแล้ว but nobody has used it in a while

เพราะจบไปแล้วไง ’cause I’ve already graduated…

อืม…  yea…

แล้วพอมาเรียนป.โท and then I started studying for my masters..

ไม่คิดว่าจะมีคนเรียก and I didn’t think anybody would call me that (anymore)

ตกใจเลยนะ its kinda surprising

หันไป looking back

ทำไมเค้าถึงเรียกอย่างเงี่ย why did they call me that?

แล้วเค้าก็บอกว่า Well, I’d say it’s because

ก็บู๋หัวเราะได้ทุกวัน I laugh every day.

จบ That’s it.

Beginner Vids

I made a bunch of short, low-quality vids for a class I’m teaching right now as they don’t have access to decent internet and many of them are stuck using  slow computers.

To Have

Can’t Remember

To Like

Difficult

To Want/To Take

Robinson Crusoe – Transcript

[youtube=http://www.youtube.com/watch?v=P1aTwMX2vZ4]

Robinson Crusoe

ก็เป็นคนหนึ่งชาว(หัวเราะ) สักอันหนึ่งอ่ะ(หัวเราะ) จำไม่ได้ไง จำได้แค่ว่าคือ เค้าง่ะเป็นคนที่ชอบ  ชอบการผจญภัย เค้าก็เลย  ที่จำได้ก็คือ เค้าออกไปแล่นเรือกับเพื่อนๆ  กับอะไรอย่างเงี่ย แล้วก็เหมือนแบบเกิดโดนโจรสลัดนะมาปล้น  แล้วเค้าก็ถูกจับไปเป็นเชลย แล้วเสร็จแล้วเค้าก็ แต่ว่าเจ้านายเค้านะเป็นคนดี ใจดีมากเลย พอเค้าถูกจับไปอะไรอย่างเงี่ยก็คือไปเป็นทาส แต่ว่าเค้าก็ไม่ได้แบบโหดร้ายทารุณอะไร อะไรชายคนนี้ นายเอแล้วกันบู๋จำชื่อไม่ได้ ไม่ได้ทารุณเอ แล้วพอมาวันหนึ่งเค้าก็ให้ออกไปแบบไปล่องเรือคือประมาณแบบว่ามีโอกาสที่จะหลบหนี เค้าก็เลยหลบหนีออกไปเสร็จแล้วปุ๊บก็เค้าก็เรือมันแบบไม่ได้ใหญ่อะไรมากอย่างเงี่ย มันก็เลยเหมือนแบบอับปราง แล้วก็ไปติดอยู่บนเกาะ เค้าก็อยู่บนเกาะคนเดียวคือคนอื่นนะตายหมดเลยอะไรอย่างเงี่ย เค้าก็อยู่บนเกาะคนเดียว แล้วก็พอเค้าตื่นขึ้นมาคือประมาณว่าก็อยู่บนเกาะที่ข้างรอบๆข้างก็มีแต่ทะเลอย่างเงี่ย เค้าก็ไม่รู้ต้องใช้ชีวิตอย่างไง ต้องทำอย่างไง เค้าก็เริ่มเรียนรู้ว่าอยู่บนนี้อันดับแรกก็ต้องสร้างๆบ้าน สร้างที่พัก สร้างที่อยู่ แล้วก็หาอะไรมากิน แล้วการจะหาอะไรกินก็ต้องเป็นผลไม้หรือว่าเป็นสัตว์ป่าที่อยู่ตรงนั้น แล้วก็น้ำก็ต้อง เค้าก็ต้องรู้จักที่จะจุดไฟแล้วก็มีหม้อ มีอะไรอย่างเงี่ยเพื่อที่จะเอามาต้มน้ำ เพราะถ้าเกิดกินน้ำที่มันมาจากน้ำทะเลหรือจากที่แบบตามแหล่งน้ำที่แบบตรงนั้นมันก็ต้องแบบไม่สะอาด แล้วก็อาจจะทำให้เค้าติดเชื้ออะไรอย่างงี้ได้ เค้าก็เลยแบบต้องหาหม้อมาต้ม แล้วเค้าจะหาหม้อจากไหน คือเค้าไม่มีอะไรเลย เค้าก็เลยแบบต้องเริ่มสร้างจากหินจากอะไรอย่างเงี่ยก็เอาหินมาแบบ เค้าเรียกว่าอะไรล่ะ ตีๆๆต่อยกันจนแบบเหลาให้เป็นไม้ เป็นมีดดาบ อะไรอย่างเงี่ย คือ เครื่องครัวอะไรต่างๆนาๆของเค้า คือเหมือนประมาณว่าบ้านหลังหนึ่งควรจะมีของอะไรบ้าง คือเค้าสร้างขึ้นมาเองหมดเลย แต่ว่าระยะเวลาในการสร้างก็คือ เค้าอยู่ที่นี้ประมาณ 27 ปี เพื่อที่จะสร้างพวกนี้ให้ครบหมดทุกอย่างเลย จนสุดท้ายสุดที่เค้านะหลบหนีออกมาจากเกาะนี้ได้ก็มีคนหนึ่งก็ ไม่ใช่มีคนหนึ่งก็กลุ่มหนึ่งเหมือนกัน เค้าเป็นเหมือนเป็นกัปตันเรือ แล้วเค้าก็ถูกจับโดยแบบมีแบบมีพวกที่ทรยศเค้าเนี่ยในเรือเดียวกันนี้ เค้าก็ถูกจับเอาไว้ เค้า(นายเอหรือRobinson)ก็เหมือนแบบไปช่วยคนเนี่ย(กัปตัน) แล้วคนเนี่ยก็เลยบอกว่า เออเนี่ย! ทำแผนกันว่าเค้า(กัปตัน) จะไปเอาเรือคืนอะไรอย่างเงี่ย ไปเอาเรือคืน แล้วถ้าเกิดเค้าส่งสัญญาณมานั้นแปลว่าสงบแล้วก็ให้เค้าออกไป แล้วเค้าก็จะพาไปกลับบ้านเค้าอะไรอย่างเงี่ย(เป็นคนประเทศเดียวกัน) แล้วสุดท้ายแล้วกัปตันนี้ก็ทำสำเร็จก็เลยพาเค้ากลับบ้านแล้วก็จับไอ้พวกที่ทรยศนั้นน่ะให้มันถูกจับอยู่เกาะแทนเงี่ย แต่พวก แต่ว่าพวกนี้ก็ยังโชคดีกว่าเค้าตอนที่เค้ามาครั้งแรกคือเค้าไม่มีอะไรเลย เค้าสร้างเองหมด แต่ตอนนี้พวกเนี่ยมาคือเค้าสร้างไว้ให้หมดแล้ว อย่างงั้นพวกนี้ก็ยังคงสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ แต่ว่ามันจะติดต่อกับใครไม่ได้เท่านั้นเอง แล้วเค้าก็ได้กลับบ้าน แต่สรุปสุดท้ายเค้าก็คิดว่าเค้าจะไม่ ไม่ล่องเรืออีกล่ะ จะไม่ทำอะไรอีกล่ะ ก็คือแบบจะอยู่ชีวิตเฉยๆธรรมดาๆ เรียบง่ายอะไรอย่างเงี่ย แต่การที่เค้ากลับไป 27 ปีที่เค้าไม่อยู่ พอเค้ากลับไป พ่อ แม่ ของเค้าก็ตาย พี่ชายเค้า ญาติเค้าก็คือตาย(ไป)หมดเลย เหลือแต่หลาน หลานกับลูกของพี่ชาย(หลานอีกคน) ก็ประมาณ 2 คนเท่านั้นแหละที่เค้า(ไป)อยู่ด้วย แล้วสรุปสุดท้ายหลานเค้าคนโตเนี่ยก็ชอบเหมือนกัน ชอบเหมือนกับเค้าก็เลยแบบชวนเค้าออกไปล่องเรืออีกครั้งหนึ่ง เค้าก็เลยได้ออกมาผจญภัยอีกครั้งหนึ่งเนี่ย เค้าก็เลยคิดว่าเองเค้านะเป็นเรื่องที่แปลก เรื่องที่แปลกที่วันหนึ่งจะต้องเอามาเขียนเป็นหนังสืออะไรอย่างเงี่ย แล้วก็เอามาขายได้ อะไรอย่างเงี่ย อืมมม จบล่ะ

Today (Boo) – Transcript

[youtube=http://www.youtube.com/watch?v=hRc-CIoibmY]

 

Here’s the transcript for my talk with Boo.

(อ่า ! วันนี้ วันนี้ไปทำอะไรมา) ก็ตื่นสายเพราะเมื่อคืนไปกินเบียร์มา(ที่ไหน) กินตรงเนี่ย เดหลีนี่ ไปกินกับพี่ กินเยอะไปหน่อย(หัวเราะ) ก็ตื่นตั้งแต่ ตื่นตั้งแต่(อืม..กี่โปรล่ะ) 2 (2 โปร) แต่บู๋กินไม่หมดหรอก มีใครบางคนกินเยอะกว่า(หัวเราะ)แถวๆนี้นะ ไม่ก็มันตื่น แบบปกติถ้ากินเยอะแล้วมันจะร้อน แล้วมันจะตื่นเองนะ ก็วันนี้ตื่นมาตีห้า ตื่นตีห้าเสร็จแล้วปุ๊บก็ร้อน อยู่ไม่ได้ก็ไปเปิดแอร์แล้วนอนต่อ แล้วก็ตื่นมาอีกทีเก้าโมงกว่า เพราะว่าจริงๆแล้วมีเรียนสิบโมง ก็เลยทำให้ late (เรียนอะไรล่ะ 10 โมง) เรียน…ภาษาอังกฤษ ก็เลย late นิดหนึ่ง ติ๊กไปเคาะประตู แล้วบอกรอแป๊บหนึ่ง(หัวเราะ) เพราะว่าบู๋ไม่ทัน ติ๊กก็เลยต้องรอ แล้วเสร็จแล้วก็ไปเรียนภาษาอังกฤษประมาณชั่วโมงครึ่ง ก็เสร็จประมาณสิบเอ็ดโมงครึ่ง หลังจากนั้นก็ไปซื้อข้าว แล้วก็ไปส่งข้าว(หัวเราะ) เสร็จแล้วน้าก็โทรมาบอกว่าอยู่ที่ MK ให้ตามไปแล้วก็ไปกินข้าวกับน้าก็เลยช้าไง(อ้าว! ซื้อข้าวมาแล้วไปกินข้าว) ซื้อข้าวมาให้คนอื่น(ไม่ได้ซื้ออะไรให้ตัวเอง) ไม่ได้ซื้อให้ตัวเอง ก็เอาก้านเห็ดมาให้ติ๊ก แล้วก็ แล้วก็(เออๆๆก้านเห็ดคืออะไรก็คนที่ฟังเค้าไม่รู้)ก้านเห็ดก็คืออาหารเจอย่างหนึ่ง อร่อย อร่อยมากเลย แนะนำก้านเห็ดอยู่หน้าคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ชื่อร้านมังสาวิรัต เยี่ยม! อร่อยมาก อืม.. แล้วเสร็จแล้วก็ไปกับน้าไปกินMKแล้วไม่กล้าเร่งน้าไงก็เลยช้า late (แล้ว MK คืออะไร) คือสุกี้ยากี้ คือมันเป็นร้านอาหารที่เป็นแบบสุกี้ง่ะ หม้อต้มเค้าน่าจะรู้จักมั้ง อืม (เออ!ไม่เคยมาจะรู้จักได้ไงหน้อ) เออ!หน้อ มีหม้อต้มแล้วก็เอาใส่ๆๆสรรพสิ่งอย่างลงไปเงี่ย หมู เนื้อ ไก่ ปลาหมึกลงไปก็กิน แล้วกินกับน้าเสร็จประมาณชั่วโมงหนึ่งแล้วก็เสร็จประมาณบ่ายโมงอย่างเงี่ย แล้วก็ไปดูรอบหนัง ไปดูเรื่องจีจ๊า แล้วหนังนะมีรอบเที่ยงครึ่งกับบ่ายโมงสี่สิบห้าก็เลยจำเป็นต้องดูบ่ายโมงสี่สิบห้าเพราะรอบเที่ยงครึ่งไม่ทันแล้วเงี่ยืเสร็จก็เกือบสี่โมงเมื่อกี้ก็รีบมาเนี่ยแหละเพราะว่ามัน late ไง ก็ต้องขอโทษด้วย(late กี่นาที) late ประมาณ 20 นาที(อืม) อืม..ก็มัน late มาตั้งแต่แรกแล้วไงก็เกรงใจน้าน้าเค้าอุตส่าห์มา เค้าก็บอกให้ไปกินด้วยกัน อย่างไง(ก็ไม่เป็นไร คราวหน้าก็โทรมาบอกก่อนเดี๋ยวน่าจะ late หรือป่าวจะ late สักกี่นาทีหรือครึ่งชั่วโมง) เมื่อกี้ส่งmessage มาบอกแล้วไง (ส่ง message wait a minute) 555+++ก็คิดว่ามันจะจบแล้วไง ก็จริงๆมันต้องจบแบบต้องจบบ่ายสามโมงครึ่งไง(ตามกำหนดการที่ควรจะเป็น คิดในใจแต่ไม่ได้พูดออกมา) แล้วมันก็ late ไปสิบห้านาที(ก็แล้วทำไมไม่บอกก่อน……….)